วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สารคดียอดเยี่ยม และ กำกับภาพยอดเยี่ยม UNESCO AWARD

















Thailand’s Sawan Baan Na (Agrarian Utopia) won the UNESCO Award for outstanding contribution to the promotion and preservation of cultural diversity through film and the Award was accepted by the filmmaker, Uruphong Raksasad. This is the first year that Thailand has been nominated in the APSAs

"รางวัล Asia Pacific Screen Awards ครั้งที่ 3"อย่างที่ทราบ มีหนังไทย 2 เรื่องคือ "พลเมืองจูหลิง" และ "สวรรค์บ้านนา" เข้าชิงรางวัล "หนังสารคดียอดเยี่ยม" และ "กำกับภาพยอดเยี่ยม" (ตามลำดับ)แม้ทั้งสองเรื่องจะไม่ได้รางวัลในสาขาที่ตนเข้าชิง แต่เรื่อง "สวรรค์บ้านนา" ของผู้กำกับ "อุรุพงษ์ รักษาสัตย์" ก็ได้รับรางวัลพิเศษ UNESCO AWARD (หนังส่งเสริมและอนุรักษ์ความหลากหลายทางวัฒนธรรม)

BEST DOCUMENTARY FEATURE FILM
- Polamuang Juling (Citizen Juling), Thailand, Produced by Ing K, Manit Sriwanichpoom and Kraisak Choonhavan- Hashmatsa (Defamation), Israel / Austria / Denmark / USA, Produced by Knut Ogris, Karoline Leth, Sandra Itkoff and Philippa Kowarsky
- Gandhi's Children, Australia, Produced by David MacDougall
- L'important, c'est de Rester Vivant (Survive, In the Heart of the Khmer Rouge Madness), Cambodia / France, Produced by Gerard Lacroix, Leslie F. Grunberg, Gerard Pont, Co-Produced by Rosane Chan, Antoine Martin
- Seishin (Mental), Japan / USA, Produced by Kazuhiro SodaACHIEVEMENT IN

CINEMATOGRAPHY
- Uruphong Raksasad for Sawan Baan Na (Agrarian Utopia), Thailand
- Cao Yu for Nanjing! Nanjing! (City of Life and Death), People’s Republic of China
- Ali Mohammad Ghasemi for Cheraghi Dar Meh (A Light in the Fog), Islamic Republic of Iran
- Alisher Khamidhodjaev and Maxim Drozdov for Bumaznyj Soldat (Paper Soldier), Russian Federation
- Alexei Arsentiev for Volchok (Wolfy), Russian Federation













หนังไทย "สวรรค์บ้านนา" คว้ารางวัลจากงานภาพยนตร์เอเชีย-แปซิฟิก (จาก มติชนออนไลน์)
...
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่โกลด์ โคสต์ เมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการจัดงานประกาศรางวัล "เอเชีย แปซิฟิก สกรีน อวอร์ดส์" ประจำปี พ.ศ.2552 ซึ่งมีภาพยนตร์ไทยนอกกระแสสองเรื่องได้เข้าชิงรางวัลในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ "พลเมืองจูหลิง" ผลงานการกำกับของสมานรัชฎ์ (อิ๋ง) กาญจนะวณิชย์, มานิต ศรีวานิชภูมิ และไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม และ "สวรรค์บ้านนา" ผลงานการกำกับของอุรุพงษ์ รักษาสัตย์ ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม ผลปรากฏว่า ภาพยนตร์เรื่องสวรรค์บ้านนาของอุรุพงษ์สามารถคว้ารางวัลพิเศษ "ยูเนสโก อวอร์ด" จากคณะกรรมการไปครอบครอง โดยรางวัลดังกล่าวมอบให้แก่ผลงานภาพยนตร์ที่ส่งเสริมและอนุรักษ์ความหลากหลายทางวัฒนธรรม
...
อุรุพงษ์ รักษาสัตย์ เป็นบัณฑิตสาขาภาพยนตร์จากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เกิดมาในครอบครัวชาวนาที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ก่อนหน้านี้หนังเรื่องสวรรค์บ้านนาของเขาสามารถคว้ารางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติมาได้หลายรางวัล หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดภาพชีวิตของชาวนาสองครอบครัวผู้ซึ่งที่นาถูกยึด ต่อมาพวกเขาได้มาร่วมทำนาบนผืนดินเแผ่นเดียวกัน และหวังว่าจะสามารถผ่านชีวิตหนึ่งปีของการทำนาไปได้เหมือนเช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าไม่ว่าโลก ประเทศ หรือสภาพเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม จะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ชาวนาเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถนึกฝันถึงวิถีแห่งความไม่ทุกข์ยากได้ สุดท้ายหนังพยายามตั้งคำถามว่า "เราจะฝันถึงโลกอุดมคติได้อย่างไร ขณะที่ท้องยังหิวอยู่"
...
คลิกดูรางวัลทั้งหมดได้ที่นี่
ข่าวจาก wisekwai
รายชื่อหนังที่เข้าชิงทั้งหมด (37 เรื่อง จาก 16 ประเทศในภูมิภาค)
โฉมหน้าคณะกรรมการนานาชาติ
ข้อมูลหนัง พลเมืองจูหลิง
เรื่องเล่าจาก อุรุพงศ์ รักษาสัตย์ (ฉบับอู้กำเมือง)
ข้อมูลหนังสวรรค์บ้านนา
agarian utopia review

http://filmsick.exteen.com/20091017/entry
http://twitter.com/filmsick
http://www.onopen.com/littleprince2/09-10-21/5081

http://www.thaicinema.org/filmshow2009.asp
http://www.thaicinema.org/interview13_agarian.asp
http://www.thaicinema.org/link.asp

ฟังเพลง การท่องเที่ยวไทย

Experience Thailand Once in A Lifetime
ขับร้องโดยวงสวนพลู

Experience Thailand

(ช)เดินทางสู่จุดหมาย เติมประสพการณ์ยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งในชีวิต ดินแดนแห่งความฝัน มหัศจรรย์ยิ่งกว่า สวรรค์ใดๆ ตาตรึงกับทิวเขา ยืนคุยกับปุยเมฆหมอก ครั้งหนึ่งในชีวิต ฟังเพลงจากธารน้ำ ทำนองนุ่มนวลจากพื้นดิน ไหลรินตื่นตา

(ญ)ทะเลจะคอยต้อนรับ ฟ้างามจะกางอ้อมกอด ความบริสุทธิ์รายล้อม เหนือจินตนาการ เดินทางอยู่กลางรอยยิ้ม พบเจอเรื่องราวที่งดงาม เดินทางสู่ครั้งหนึ่งในชีวิต

(ช)ตามรอยและเรียนรู้ มรดกบนพื้นโลก ครั้งหนึ่งในชีวิต ตำนานที่จารึก พลังศรัทรายิ่งใหญ่ มานับพันปี นาทีแห่งมนต์ขลัง รอคอยให้มาสัมผัส ครั้งหนึ่งในชีวิต ยาวนานด้วยความรัก ยืนยงด้วยอารยะธรรม ลึกล้ำจากใจ

(ญ)ดินแดนที่เป็นเมืองฟ้า นครแห่งความรุ่งเรือง ดังความสว่างไสว ร่มเย็นในวิญญาณ เดินทางอยู่กลางรอยยิ้ม พบเจอเรื่องราวที่งดงาม เดินทางสู่ครั้งนึงในชีวิต

(ช)คืนวันที่สดใส คืนวันเปียกปอนชุ่มฉ่ำ ครั้งนึงในชีวิต คือคืนที่วาววับ เปลวเทียนแห่งความหวานชื่น ระยิบเรียงราย คือโลกที่เวียนหมุน คือมุมที่เจอเพื่อนใหม่ ครั้งนึงในชีวิต ดูแลด้วยไมตรี คำสวัสดีจากหัวใจ

ทักทายผูกพัน ยินดีที่ได้ต้อนรับ ให้เธอได้นอนฝันดี และได้จดจำวันนี้ ไว้นานเท่านาน เดินทางอยู่กลางรอยยิ้ม พบเจอเรื่องราวที่งดงาม เดินทางสู่ครั้งหนึ่งในชีวิต เดินทางอยู่กลางรอยยิ้ม พบความเบิกบานในหัวใจ เมืองไทย ครั้งนึงในชีวิต

http://thai.tourismthailand.org/theme-song/content-567-1.html
<คลิ้กเพื่อดาวน์โหลด>

เพลง 5 ภาคครื้นเครง ร้องบรรเลงทั่วไทย
สุเมธ องอาจ, สุกานดา บุญธรรมนิก

เป็นเพลงที่ใช้ในพิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2552 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ความยาว 16 นาที คลิกเพื่อดาวน์โหลด

เนื้อเพลง
ภาคเหนือ
เที่ยวเมืองไทย สว๋างอ๊กสว๋างใจ๋แอ่วตังใด ยะหื้อหัวใจ๋ รื่นรมย์ปะเป๋หนี๋งาม และความเป๋นอยู่ เฮาเหมาะสมปู้คนชื่นชม ว่าหมู่เฮา งามน้ำใจ จวนแอ่วป้ากเหนือ ขึ้นดอย ไปไหว้พระไปแอ่วกันนะ ให้เงินตราอยู่ในไทยธรรมชาติงดงาม ป่าทิวเขา ทอดยาวไกลพักผ่อนหย่อนใจ ชวนแอ่วไทย ให้คึกคัก เที่ยวเมืองไทย สว๋างอ๊กสว๋างใจ๋ชวนแอ่วเมืองปาย เปื้อนหญิงชาย หลายคนแอ่วเขาชาวดอย เขาปลูกพืชผัก มากผลเกษตรตำบล หลากหลาย โครงการ มีงานทำ เฮาอยู่เมืองไทย ต้องช่วยคนไทย ให้ฟื้นให้เศรษฐกิจ กลับคืน พลิกพื้นขึ้นมาใหม่ฮ่วมสร้าง ฮ่วมทำ ฮ่วมส่งเสริมท่องเที่ยวไทยจะอยู่ตีใด ก็เที่ยวไทยให้คึกคัก เชิญแอ่วบ้านเฮา ให้เงินตรากลับคืน เที่ยวไทยครึกครื้น ให้เศรษฐกิจไทยคึกคัก

ภาคใต้
ลง ลง มา ต๊ะน้อง ลองมาเที่ยวที่ภาคใต้มาต๊ะพี่หลวง ไปแลเล เติ้นเอาหม้ายเกาะแก่ง ภูเขา มีลำธาร พรรณป่าไม้ไม่ใกล้ ไม่ไกล แวะปักษ์ใต้บ้านเรา ประเพณี เดือนสิบ งานชักพระ แข่งเรือพายกราบพ่อท่านคล้าย พระธาตุน้อยคลองจันดีแข๊บ แข๊บ มาศึกษา แหล่งธรรมะ ประเพณี ใต้ร่มเย็นวันนี้ ทุกเชื้อชาติรักกัน

* เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคักยินดีต้อนรับ ด้วยมิตรไมตรี ขอบคุณทุกคน ร่วมสามัคคีช่วยชาติทั้งที ทั้งปีเที่ยวไทย เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคักยินดีมากๆ ร่วมด้วยช่วยกัน ขอบคู๊น ขอบคุณ ขอบใจอย่างแรงเลือดไทยสีแดง รวมใจเป็นหนึ่ง กินลูกตอ หนอเหรียง ลูกเนียง แกงพุงปลากินหนมจีนน้ำยา เคียงผักเหน๊าะ ปลาแกงเหลือง กินปลาฉิ้งฉั้ง หมูย่าง หรอยจังฮู้คั่วกลิ้ง น้ำบูดู เผ็ดหู้จี้ อย่างแรง แลหนังลุง หนังฉาย โนราห์ใต้ หมั้นน่าดูแล ดิเก ฮูลู แข่งนกเขา ที่เมืองใต้ แวะชมเรือกอและ แลรอง แง็ง แข่งชนวัวรีบมาเยือนด้วยตัว ชมสวรรค์ แดนใต้

เงินทองหมุนเวียน อยู่ในเมืองไทย ไม่รั่วไม่ไหล ให้ไทยเสียดุลย์เงินทองหมุนเวียน อยู่ในเมืองไทย ไม่รั่วไม่ไหล เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก

ภาคอีสาน
(บอม)
เชิญ เชิญ เชิญ ม่วนซื่นโฮแซว อีสานบ้านเฮาแผ่นดินเป็นถิ่นของเรา เซินม๊ะ บ่าวสาว มาม่วนอีสานฮวมน้ำใจ มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยใจชื่นบานชวนลูกชวนหลาน มารฮ่วมสืบสาน เที่ยวงานบ้านเฮา(บอม) ประเพณีงาม สืบต่อกันมา คำผญาอีสานฝึกฝนไม่บ่นเกียจคร้าน สร้างหลักปักฐาน สร้างงาน สร้างคนแหล่งฮวม หัวใจ พ่อ แม่ พี่ ไทย อีสาน อดทนฮ่วมใจ เฮาไม่มีจน ฮ่วมกันทุกคนฮ่วม ท่องเที่ยวไทย*** เที่ยวเมืองไทย ช่วยไทย ให้ฟื้น ให้เงินไหลเวียนบ้านเฮาเที่ยวอีสาน เที่ยวภู เที่ยวเขา เที่ยวในบ้านเฮา ให้มันเต็มที่ อบอุ่นใจ ฮักในรอยยิ้ม ฮักในสายเลือดที่มีพร้อมใจ ให้เมืองไทยนี้ อยู่ดีกินดี ตลอดทั้งปี เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก
(บอม)

พร้อมใจ ให้เมืองไทยนี้ อยู่ดีกินดี ตลอดทั้งปี เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก

ภาคตะวันออก
ตะวันออก มีภูเขาทอดยาว เรียงฝั่งชายทะเลเกาะแก่ง แหล่งเมืองสวรรค์หาดทราย แสงประกาย หักเหคลื่นเกลียว สวยงาม แหล่งอาหารฟ้าคราม แหล่งดำน้ำ ดูปะการัง

แหล่งดี มีผลไม้ดังทุเรียน เงาะ อร่อยล้ำของฝาก มากมาย เยอะจังกี่ครั้ง ก็ยังลืมไม่ลงได้ไปครั้งใด ภาคตะวันออกของไทยไม่มีที่ไหน สวยเกินบ้านเรา

ชวนไทย เที่ยวไทย อุดหนุนไทย ช่วยไทยแข็งแกร่งของดี ไม่แพง ร่วมแรงคนไทยไปซื้อกัน พืชผักของกิน และอาหารที่มีร้อยพัน ที่เราจ่ายเงินนั้น มันกลับมาหมุนเวียนบ้านเรา ร่วมใจไปเที่ยวไปซื้อ ไปเที่ยวภาคตะวันออกกันแหล่งดีดังแดนสวรรค์ งามแสนงาม ให้ใจสดชื่น ของดีมีอีกมากมาย ทั่วเมืองไทยอย่าไปที่อื่นเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก

ของดีมีอีกมากมาย ทั่วเมืองไทยอย่าไปที่อื่นเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก

ภาคกลาง
เรามาร่วมใจ ท่องเที่ยวไทยร่วมแรงใจ เที่ยวไทยคึกคักช่วยพี่น้อง ช่วยคนไทยชวนกันไปเที่ยวไทย บ้านเรา

ซื้อกินซื้อใช้ อุดหนุนคนไทยมาช่วยไทย ไปท่องเที่ยวกัน เรามาร่วมใจ ท่องเที่ยวไทย ช่วยกันไว้ คนไทยด้วยกันเที่ยวครึกครื้น ให้คึกคัก ช่วยให้เงินกลับมาบ้านเรา

ช่วยกินช่วยใช้ อุดหนุนคนไทยเศรษฐกิจไทย เราต้องช่วยกัน ภาคกลางของเรา แหล่งสวยงาม ในน้ำมีปลาในนามีข้าวใช้ชีวิต พอเพียง ของเรา อยู่อย่างไทย ด้วยใจร่มเย็น ตกเป็นฝน ชุ่มฉ่ำ ปักและดำกล้าเป็นต่างสุขใจ ไม่มีทุกเข็ญ เราอยู่เมืองไทย สุขใจทุกคน

Hook วัดวาอาราม แหล่งสวยงาม อยุธยานั้นเป็นเมืองเก่าแวะไหว้พระ ให้ชีวิตเรา ก้าวต่อไป น้อมนำทำดีได้พบเห็น แสงสว่าง สู่หนทางมั่งมีเที่ยวภาคกลาง เชิญมา น้องพี่ หลายสิ่งที่มี ของดีเมืองไทย

Hook วัฒนธรรม ประเพณีไทย งานวัดงานบุญเรามาช่วยกัน คนละน้อยละมือ ละอันต่างร่วมกัน เป็นน้ำใจเดียวยามเกิดทุกข์ ช่วยกัน ยามสุขสันต์ กลมเกลียวอยู่เมืองไทย อย่าไปไหนเชียวขอเชิญมาเที่ยว ภาคกลางของเรา

Hook เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก


เพลงเที่ยวทั่วไทย (ปี 2539)
ขับร้อง : นัท มีเรียคำร้อง/ทำนอง : นกชนเรียบเรียง : รามจิตติ หงสกุล

ไปเติมความสดใสให้ตัวเรา ทำตัวทำใจให้เบาล่องลอยไป ยังมีอะไรที่ดีทั้งใกล้ไกล ที่รอให้เราได้พบเจอ ลองขึ้นดอยพักนอนที่กลางป่า ชมหมู่ดาวแสนงาม นอนหาดทรายขาวนวลทะเลคราม ตามที่ใจมันเรียกร้อง (ปล่อยใจลอยลมและตามไป) พบทุกอย่างที่เคยใฝ่ฝัน พบทุกอย่างที่ดีกว่าที่ใด เพราะทุกสิ่งมีในเมืองไทย ท่องเที่ยวไปให้ทั่วบ้านเรา จะไปไกลเท่าใดไม่เคยหวั่น ไปเจอคนไทยด้วยกันไม่เหงาเลย ยังคงเจอรอยยิ้มที่คุ้นเคย ไม่มีแห่งใดเหมือนบ้านเรา เมืองไทยที่งดงาม น้ำใจที่มีอยู่เปี่ยมล้น ยังคงรอทุกๆ คน ไปท่องเที่ยวให้ทั่วไทย
ดาวน์โหลดไฟล์เพลง คลิ๊กที่นี่

http://thai.tourismthailand.org/theme-song/index.php
http://thai.tourismthailand.org/photo-gallery/page-3.html
http://thai.tourismthailand.org/movie-clip-video/group-10.html

http://www.youtube.com/watch?v=lWUjUUKgt4Y
http://www.youtube.com/watch?v=EAJt5XVT2MU

about storyboard clips

http://www.youtube.com/watch?v=gu5o1SYpu1o&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=VlAr5JJ9Sy4&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=g5dOY5xZAcU&feature=SeriesPlayList&p=3DAF98DD93ACCAAC
http://www.youtube.com/watch?v=0hxoaikaHMA&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=gR2Gew1eN2M&feature=related
http://www.artofvisualising.co.uk/video.html

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

My girl

กรณีศึกษา ภาพยนตร์โฆษณาชุด My girl

เชื่อว่าหลายท่านคงยังไม่ลืมความซาบซึ้งตรึงใจของภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิต ตั้งแต่ภาพยนตร์โฆษณาชุด Peace of Mind Everlasting Love เรื่อยมาจนถึง ลูกพ่อ ที่เน้นแนวคิดคุณค่าของชีวิต และคงทำให้หลายคนได้ฉุกคิดว่าคุณมอบความรัก ความเอาใจใส่แก่คนที่รักมากน้อยเพียงไหน รวมถึงโฆษณาชุด เพื่อน ที่เป็นโฆษณาเสริมสร้างภาพลักษณ์ตัวแทน จนถึงไตรมาสสุดท้าย ไทยประกันชีวิตเดินเกมการตลาดอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ My Girl กำหนดออกอากาศตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป และถือเป็นภาพยนตร์ส่งท้ายปี ๒๕๔๙ โดยยังคงแนวคิด คุณค่าแห่งชีวิต หรือ Value of Life แต่ต่อยอดแนวคิดสู่ Value of Life and Love ความรัก ความห่วงใยและการดูแลซึ่งกันและกัน

รูปแบบการนำเสนอเป็นการนำเสนอผ่านมุมมองแห่งคุณค่าของความรักและการดูแลคนที่รัก โดยเฉพาะความรักและการดูแลของพ่อและแม่ที่มีต่อลูกอย่างไม่มีวันสิ้นสุดและไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าผู้เป็นลูกจะเป็นเช่นไรก็ตาม พ่อและแม่ก็พร้อมมอบความรักให้เสมอ

ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ กล่าวถึงครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ที่ผู้เป็นพ่อได้ค้นพบความมหัศจรรย์ของชีวิตนับตั้งแต่ลูกสาวของเขาลืมตาดูโลก เขาสัญญากับตัวเองว่าจะรักและดูแลเธอจวบจนวาระสุดท้าย การดำเนินเรื่องสามารถถ่ายทอดความรัก ความผูกพันที่พ่อมีต่อลูกสาวได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งน้อยครั้งนักที่เราจะมีโอกาสได้สัมผัส เนื่องจากพ่อมักแสดงออกซึ่งความรักและความผูกพันได้ไม่เด่นชัดเท่าแม่ จะด้วยความเป็นเพศชายหรือความผูกพันระหว่างลูกที่มักมีต่อแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ก็ตาม

จุดพลิกผันของเรื่องเกิดเมื่อลูกสาวที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น พลาดพลั้งมีความสัมพันธ์กับเพื่อนชายจนตั้งครรภ์ และกลายเป็นเรื่องที่สร้างความปวดร้าวให้แก่พ่ออย่างแสนสาหัส ครอบครัวนี้จึงจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร

โฆษณาเลือกจบด้วยการสื่อถึงความรักและการดูแลที่ไม่มีเงื่อนไข ผู้เป็นพ่อเลือกที่จะดูแลลูกของลูกสาวด้วยความรัก เช่นเดียวกับไทยประกันชีวิตที่ยึดมั่นในการดูแลชีวิตของผู้เอาประกันเสมอมา

โจทย์แรกที่ได้จากไทยประกันชีวิต คือ ต้องการสื่อถึงความมหัศจรรย์ของชีวิต หรือ Life is Miracle ขณะเดียวกันต้องคงคอนเซ็ปต์คุณค่าของชีวิตซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักไว้ เลยนึกถึงความมหัศจรรย์จากการถือกำเนิดของชีวิตๆ หนึ่ง ความรู้สึกรักและผูกพันของพ่อที่เห็นหน้าลูกสาวครั้งแรก ได้สัมผัส ได้โอบกอด มันเป็นความมหัศจรรย์ที่ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยคำพูดใดๆ กรณ์ เทพินทราภิรักษ์ Executive Creative Director บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด กล่าว

ขณะเดียวกันภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ นอกจากจะสื่อถึงคุณค่าของความรักแล้ว ยังต้องการให้แง่คิดแก่วัยรุ่น โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อันจะนำมาซึ่งผลกระทบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ ปัญหาการทำแท้ง หรือปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นในสังคมไทย และกลายเป็นปัญหาที่บั่นทอนความมั่นคงของสถาบันครอบครัว

หากติดตามชมภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิตทุกชุดที่ผ่านมา จะพบว่าภาพยนตร์โฆษณานอกเหนือจากทำหน้าที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ไทยประกันชีวิตแล้ว ยังกระตุ้นให้คนในสังคมเกิดการเรียนรู้และตระหนักคิด อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สังคมไทย จึงคาดหวังว่าภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด My Girl จะช่วยกระตุ้นเตือนเยาวชนไม่ให้หลงกระทำในสิ่งผิด แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้นควรเลือกปรึกษาพ่อแม่เป็นอันดับแรก ขณะเดียวกันยังเป็นสิ่งย้ำเตือนให้คนเป็นพ่อแม่เข้าใจและให้ความใกล้ชิดกับลูกมากขึ้น

เพราะเราต้องไม่ลืมว่าสังคมจะแข็งแรง ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ขณะเดียวกันการสร้างหลักประกันที่มั่นคงแก่คนในครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญ โฆษณาชุดนี้จึงช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อให้ไทยประกันชีวิตกลายเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค
ขอขอบคุณข้อมูลจาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด

ภาพของหญิงสาวพนมมือกล่าวขอโทษพ่อ ด้วยน้ำตาอาบแก้ม ในฉากหนึ่งของโฆษณาชุด “My girl” บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งทำให้ผู้ชมจำนวนมากพูดถึงโฆษณาชุดนี้อย่างกว้างขวาง

กระแสส่วนใหญ่พูดถึงความประทับใจที่มีต่อตัวละครเด่น คือ “พ่อ” แต่โฆษณาชุดนี้มีสิ่งอื่นที่มองเห็นมากกว่าจากจอโทรทัศน์ สิ่งเหล่านี้คืออะไร??

โฆษณาประกัน กับ การตั้งครรภ์ในวัยเรียน???
แม้โฆษณาชุด My Girl จะสร้างความประทับใจให้กับหลายๆคน แต่ My Girl ก็ทำให้คนส่วนหนึ่งเกิดความไม่เข้าใจบางประการ หนึ่งในนั้นคือสงสัยว่าเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียนเกี่ยวข้องอะไรกับโฆษณาประกันชีวิต

ผศ.กัลยกร วรกุลลัฏฐานีย์ อจารย์คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าโฆษณาชุดที่ผ่านๆ มาของบริษัทเน้นการนำเสนอเรื่องความไม่มั่นคงในชีวิต และการหาหลักประกันให้กับครอบครัว โฆษณาชุดก่อนๆ จึงมุ่งขายตัวผลิตภัณฑ์ ในขณะที่โฆษณาชุด My Girl เน้นส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรมากกว่าการขายผลิตภัณฑ์

โฆษณาชุดนี้พัฒนาตัวสารให้หนักแน่นขึ้น โดยนำเสนอประเด็นปัญหาในสังคม พร้อมทั้งสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรว่าเข้าใจและห่วงใยสังคมได้อย่างกลมกลืน โฆษณานี้สื่อสารได้ชัดเจนมากในเรื่องการเข้าใจวัยรุ่นและการเรียนรู้ที่จะให้อภัยกันในครอบครัวหากลูกทำผิดพลาด โฆษณานี้จึงเข้าถึงผู้ชมได้ไม่ยาก

ส่วนเหตุที่โฆษณานี้สามารถจับใจคนได้จำนวนมาก เนื่องจากการเลือกประเด็นปัญหาในครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันที่คนไทยผูกพันมาก อีกทั้งยังเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกซึ่งกระทบใจผู้ชมได้ง่าย โฆษณาสามารถดึงเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียนให้ใกล้ชิดกับผู้ชมได้ ว่าเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว

นอกจากนี้โฆษณานี้ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมโดยการเป็นส่วนหนึ่งในโฆษณา โดยเลือกได้ว่าจะเป็นพ่อแม่แบบไหน แบบที่เข้าใจลูกหรือไม่เข้าใจ

หากโฆษณานี้มีภาคต่อ...
ตอนจบของโฆษณา My Girl ทำให้ผู้ชมซาบซึ้งใจ จนกระทั่งบางคนอาจหลั่งน้ำตาให้กับความรักของพ่อที่มีต่อลูก ทว่าในชีวิตจริง เรื่องราวคงไม่จบลงเพียงเท่านี้ ชีวิตของตัวละครยังมีฉากต่อที่ต้องก้าวผ่านไป

สมวงศ์ อุไรวัฒนา รองผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (ACCESS)
กล่าวว่าโฆษณานี้จบลงด้วยความสุข ผู้เป็นพ่อยอมรับและจะดูแลลูกต่อไป แต่ในชีวิตจริงอาจจะไม่จบลงด้วยความสุขเช่นนี้ เพราะทางเลือกในเชิงปฏิบัติมันมีหลายแบบ สถานการณ์จริงอาจจะไม่เป็นไปตามทางเดินของโฆษณาก็ได้

โฆษณานำเสนอเพียงมุมมองเดียวและเสนอเพียงความคิดเดียว ไม่มีความคิดอื่นๆ ต่อเนื่องไปจากนั้น เช่น โฆษณาไม่ได้บอกเลยว่า หากเด็กเลือกที่จะทำแท้งจะเป็นอย่างไร ต่อไปชีวิตของเด็กคนนี้จะดูแลชีวิตใหม่ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร ต่อไปเขาจะได้กลับไปเรียนหนังสือไหม พ่อของเด็กจะเป็นอย่างไร จะกลับมาแต่งงานกับแฟน หรือว่าจะหายหน้าไปเลยทิ้งให้ผู้หญิงรับผิดชอบคนเดียว แล้วญาติ เพื่อน ครูของเขาที่โรงเรียนจะว่าอย่างไร นี่คือความคิดต่อเนื่องที่โฆษณาไม่ได้นำเสนอ

นอกจากนี้โฆษณายังบอกให้เห็นว่า เด็กในวัยเรียนก็ตั้งครรภ์ได้ ทั้งๆ ที่ครอบครัวก็ดูอบอุ่น นั่นแสดงว่าการมีครอบครัวอบอุ่นหรือครอบครัวแตกแยกก็อาจเกิดปัญหาได้เท่าเทียมกัน ประเด็นสำคัญที่ตามมาที่ผู้ชมควรคิดต่อ คือการแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกอย่างถูกวิธี จะต้องให้ความรักและรู้จักเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

Ending ที่ไม่ Happy อย่างในโฆษณา
ถ้าชีวิตจริงจบอย่าง Happy Ending เหมือนในโฆษณาได้ก็คงดี แต่เด็กสาวที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียนยังต้องพบอุปสรรคในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องการศึกษา ซึ่งสำคัญที่สุดสำหรับอนาคตของเยาวชน

อาจารย์ฝ่ายปกครอง (ขอสงวนนาม) โรงเรียนมัธยมศึกษา กรุงเทพฯ ให้ความเห็นว่า ถ้าหากครูทราบว่าเด็กมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว จะเกิดคำถามขึ้นมาเลยว่า เด็กท้องแล้ว หรือยังไม่ท้อง?ถ้าท้อง โรงเรียนต้องเชิญผู้ปกครองมาคุย ถ้ายังไม่มีใครในโรงเรียนรู้เรื่องนี้ก็ดีไป โรงเรียนจะช่วยปิดข่าวให้ เด็กก็จะมีทางเลือกสองทาง คือ ถ้าอยากเรียนที่โรงเรียนต่อก็ต้องไปทำแท้ง จึงจะกลับมาเรียนได้ แต่ถ้าจะเอาลูกไว้ก็ต้องลาออกไป แม้จะไปคลอดลูกแล้วโรงเรียนก็ไม่รับกลับเข้ามาเรียนอีก เพราะเป็นกฎของโรงเรียน ถ้าอยากเรียนก็ต้องไปเข้าการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เอา เด็กกับผู้ปกครองต้องเลือกว่า จะเอาชีวิตลูกในท้องหรือเอาอนาคตเด็กไว้ แต่ส่วนใหญ่ของเด็กที่ตัดสินใจคลอดมักจะไม่ได้กลับมาเรียน เพราะติดพันที่ต้องเลี้ยงลูกต่อ

ส่วนถ้ายังไม่ท้อง แต่โรงเรียนสืบได้ว่าเด็กมีเพศสัมพันธ์กัน ถึงแม้จะไปมีอะไรกันนอกโรงเรียน โรงเรียนก็ต้องเรียกมาจัดการอยู่ดี เชิญผู้ปกครองมารับทราบด้วย ถ้าคุยกันรู้เรื่อง โรงเรียนก็อาจจะแค่ทำทัณฑ์บนไว้

การช่วยแก้ปัญหาให้เด็กของโรงเรียนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าเป็นเด็กดีโรงเรียนก็อยากช่วยเต็มที่ แต่ถ้าเด็กมีปัญหามีความประพฤติไม่ดี โรงเรียนก็อาจให้ออกตั้งแต่คราวแรก และในกรณีที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ตามกฎโรงเรียนจะให้ออกจากโรงเรียนทั้งคู่ แต่ในความเป็นจริง เราจะให้เลือกให้คนใดคนหนึ่งออก ส่วนใหญ่ก็มักเป็นเด็กผู้หญิง เพราะทนอายจนอยู่ไม่ได้

การลงโทษขั้นให้ออกจากโรงเรียน ถ้ายังไม่จบการศึกษาภาคบังคับ คือ มัธยมต้น โรงเรียนจะช่วยหาโรงเรียนใหม่ให้ แต่พอไปอยู่ที่ใหม่แล้ว ทั้งโรงเรียนเดิมและโรงเรียนใหม่จะติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ถ้าทำผิดอีกก็เจอโทษหนัก ส่วนนักเรียนมัธยมปลาย ต้องให้ไปเข้า กศน. มิฉะนั้นก็หาโรงเรียนใหม่เอง โรงเรียนเดิมจะไม่รับผิดชอบ

แหกกฎ - ให้โอกาส
การตั้งครรภ์ในวัยเรียน ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง จนถึงกับต้องปิดกั้นโอกาสที่เยาวชนจะได้แก้ไขตัวเอง ดังนั้นเสียงจากเยาวชนส่วนหนึ่ง จึงเรียกร้องโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน

พัชระ ติกวัฒนานนท์ - นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่ากรณีที่เด็กนักเรียนมีเพศสัมพันธ์กัน โรงเรียนไม่ควรมีบทลงโทษถึงขนาดไล่ออก แค่เรียกมาตักเตือนว่าการกระทำนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไรก็น่าจะเพียงพอ และคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าถึงกับท้องขึ้นมา โรงเรียนอาจต้องขอให้พักการเรียน พอคลอดแล้วหรือพร้อมกลับมาเรียน ก็ควรรับกลับเข้ามาเรียนได้ที่โรงเรียนเดิม ซึ่งเราน่าจะมีโรงเรียนสำหรับคนที่ท้องแล้วโดยเฉพาะ ถ้าเด็กที่ไปคลอดลูกแล้วกลับมาเรียนแต่ไม่สามารถเข้ากับสังคมในโรงเรียนได้ ก็ไม่ควรเป็นสาเหตุสำหรับการที่ต้องหมดโอกาสทางการเรียน

“การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ คนไร้การศึกษาเสียอีกที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาหลายอย่างในสังคม เพียงเพราะเขามีปัญหา หากกีดกันให้เขาออกไปเผชิญปัญหาตามลำพัง อาจก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา หรือพอเขามีปัญหา คุณจะช่วยหาทางลดปัญหานั้นลง เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาต่อเนื่องไปอีกเรื่อยๆ ทางไหนที่ดีกว่ากัน”

เด็กที่ท้องก็ควรมีโอกาสสำหรับอนาคต ไม่ควรตัดสินอนาคตอีกทั้งชีวิตของเขาจากความผิดพลาดในวัยเด็กเพียงครั้งเดียว

แม้ความรักความเข้าใจในครอบครัว และสถานศึกษาจะเป็นส่วนสำคัญสำหรับการแก้ไขเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียน สังคมเองก็เป็นส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อคนในสังคมสามารถเข้าใจ ยอมรับ และให้โอกาส โลกอันสวยงามในโฆษณาก็อาจปรากฏให้เห็นได้ในชีวิตจริง

เรื่อง...โดยปิยสุดา อาชาสันติสุข, นวลนภา รุจิรามงคลชัย และ ณัฐ ฉมามหัทธนาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
http://4825003.multiply.com/video/item/11
credit: http://www.kosanathai.com/todaystalk/view.asp?mNewsID=306

http://www.sickplaylist.com/videos/โฆษณาไทย

พ่อมองเห็นเราเสมอ

การเล่าเรื่อง กรณีศึกษา TVC พ่อเห็นเราเสมอ

Credit Agency เดนท์สุ (ประเทศไทย)
Creative Group Head พิสุทธิ์ วงศ์พันธ์
Production House ฟีโนมีนา
Flim Director สาธิต กาลวันตวานิช

“ธุลีของแผ่นดิน” เรื่องราวของเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่ เธอชื่อ มาลัยรัตน์ มั่นสัมฤทธิ์ ผู้ใช้ชีวิตอย่างอยากลำบากกับแม่ผู้เป็นอัมพาตและป่วยหนัก อาศัยอยู่ในยุ้งข้าวของเพื่อนบ้าน ที่ ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร ชีวิตที่แร้นแค้นจนแทบกลั่นน้ำตาทานต่างข้าว ไร้เงินทองที่จะเยียวยารักษามารดา ด้วยความกตัญญู เธอเลือกที่จะเขียนจดหมายที่ไร้การจ่าหน้า ไร้ซองและไร้แสตมป์ เพื่อขอความช่วยเหลือ วันแล้ววันเล่าที่เธอรอคอยอย่างเลือนรางจนแทบสิ้นหวัง แต่ในที่สุดความปิติก็เอ่อล้นในหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอ เมื่อมีจดหมายตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการเพื่อแสดงเจตจำนงช่วยเหลือครอบครัวเธอ ภาพจดหมายของมาลัยรัตน์ปรากฏบนโต๊ะทรงงานของในหลวง ทำให้ใครหลายคนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “พ่อมองเห็นเราเสมอ” ไม่ว่าเราจะเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ ของแผ่นดินก็ตาม